Yield ทำความรู้จักก่อนลงทุน คำที่มือใหม่ทุกคนต้องรู้จัก

Yield ทำความรู้จัก ก่อนลงทุนสำหรับมือใหม่

สำหรับมือใหม่แล้วนั้นคำว่า yield เป็นคำที่สำคัญมากที่ควรเรียนรู้และทำความเข้าใจเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรที่แม่นยำและแน่นอนมากขึ้นในทางการเงินและการลงทุน “Yield” หมายถึง รายได้ที่นักลงทุนได้รับจากการถือสินทรัพย์ โดยมักนับเป็นร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าที่ลงทุนทั้งหมด วันนี้เราจะแนะนำหัวข้อหลักๆที่ควรทำความเข้าใจเอาไว้

 

ประเภทของ Yield สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามแหล่งกำไรหรือรายได้ที่มากัน โดยสามารถจำแนกได้เป็นดังนี้:

  • ดอกเบี้ย (Interest Yield): คือ รายได้ที่นักลงทุนได้รับจากการถือตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรธนาคาร หรือสัญญาเงินฝาก ซึ่งการคำนวณดอกเบี้ยส่วนใหญ่จะใช้ร้อยละเป็นหน่วย

 

  • ผลประโยชน์ (Dividend Yield): คือ รายได้ที่นักลงทุนได้รับจากการถือหุ้นของบริษัท เมื่อบริษัทแจกเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ส่วนใหญ่นับเป็นร้อยละของราคาหุ้น

 

  • การผลิต (Production Yield): ใช้ในภาคเกษตรหรืออุตสาหกรรม หมายถึง ปริมาณผลผลิตที่ได้รับจากการเพาะปลูกหรือการผลิตสินค้า ในรูปแบบของจำนวนหรือปริมาณสินค้า

 

  • ผลตอบแทนจากการลงทุน (Investment Yield): คือ ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน ซึ่งสามารถมาจากดอกเบี้ย ค่าขายหลังจากการถือหรือกำไรที่สร้างขึ้น

 

การเปรียบเทียบรายได้เป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนควรทำเมื่อพิจารณาการลงทุนในหลายๆ อสังหาริมทรัพย์หรือหลักทรัพย์ต่างๆ เรามีทริคมานำเสนอ

1 การเปรียบเทียบในระดับเดียวกัน:

  • เลือกสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ที่คล้ายกัน: การเปรียบเทียบรายได้ควรทำโดยเลือกสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ที่มีลักษณะเดียวกันเพื่อให้การเปรียบเทียบเป็นที่เทียบเท่าได้ง่าย
  • การใช้ตัวชี้วัดเดียวกัน: ควรใช้ตัวชี้วัดที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเภทของสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ เช่น Dividend Yield สำหรับหุ้น หรือ Bond Yield สำหรับตราสารหนี้

2 การคำนวณรายได้ต่อหน่วยเงินลงทุน:

  • การคำนวณ Dividend per Share: หากเปรียบเทียบหุ้น ควรคำนวณ Dividend per Share โดยหารจำนวนเงินทั้งหมดที่จ่ายเป็นเงินปันผลต่อหุ้น
  • การคำนวณรายได้ต่อหน่วยเงินลงทุน: หากเปรียบเทียบรายได้จากการลงทุนในหลักทรัพย์ ควรคำนวณรายได้ที่ได้รับต่อหน่วยเงินลงทุน เช่น รายได้ต่อหน่วยเงินลงทุนในกองทุนรวม

4 การพิจารณาความเสี่ยงและความเป็นไปได้:

  • การวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยง: ควรพิจารณาโอกาสและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เช่น โอกาสในการเพิ่มมูลค่าของหลักทรัพย์ หรือความเสี่ยงในการขาดทุน

5 การใช้เครื่องมือการวิเคราะห์:

  • การใช้ตัวชี้วัดเสริม: การใช้เครื่องมือการวิเคราะห์เพิ่มเติม เช่น ราคาส่วนต่าง-ตายตัว (Price-to-Earnings Ratio) หรือ อัตราผลตอบแทนที่ลงทุน (Return on Investment) เพื่อช่วยในการเปรียบเทียบรายได้และความเสี่ยงของการลงทุน

 

เป็นไงบ้างครับหลังจากที่รู้จักกับคำว่า Yield แล้วพอจะมองภาพอกและเห็นหัวขึ้ที่จะศึกษาต่ออย่าจริงจังเพิ่มขึ้นมาบ้างมั้ยครับ ทางเราเองหวังว่าบทความบทนี้จะมีประโยชน์กับทุกๆท่านไม่มากก็น้อยนะครับ