ปรับโครงสร้างและบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงินอย่างยั่งยืน
ดำเนินการซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)การซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จากสถาบันการเงิน และมีความสามารถในการเรียกคืนเงินกู้
จำหน่ายสินทรัพย์ เช่น อสังหาริมทรัพย์, เครื่องจักร, รถยนต์, และรถจักรยานยนต์
ให้บริการด้านการเจรจา การติดตาม การทวงถามหนี้ และการดำเนินคดีทางกฎหมาย
ให้คำปรึกษาทางการเงิน และ ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ลงทุนในธุรกิจหรือ ทรัพย์สินอื่น ๆ
พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์
บริษัท พินนาเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด (PAM) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ในฐานะบริษัทในเครือของกลุ่มธุรกิจไฮไลฟ์ โดยมีวัตถุประสงค์ในการเข้าซื้อและฟื้นฟูหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จากทั้งสถาบันการเงินและสถาบันที่ไม่ใช่สถาบันการเงินในประเทศไทย บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการหนี้อย่างครบวงจร ครอบคลุมการซื้อหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ การติดตามทวงถาม การเจรจา และการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายเพื่อส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูหนี้ ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ในด้านการบริหารจัดการหนี้ พร้อมทั้งใช้ระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการขับเคลื่อนกระบวนการฟื้นฟูหนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคภาคเหนือภายในปี พ.ศ. 2569 และติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศไทยภายในปี พ.ศ. 2571
เรามุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทบริหารหลักทรัพย์
ที่ดีที่สุดของประเทศไทย
กิจกรรม Hylife CSR
Hylife CSR รวมพลังชาวไฮไลฟ์ ร่วมกับ เทศบาลท่าวังตาล ลงพื้นที่ทำความสะอาดและฟื้นฟูบริเวณถนนรอบหมู่บ้านเวียงกุมกาม รวมถึงพื้นที่สาธารณะต่างๆ และบ้านของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ได้ร่วมสนับสนุนอุปกรณ์การทำความสะอาดที่จำเป็น เช่น ไม้กวาดทางมะพร้าว จอบ พลั่ว และรองเท้าบูทยาง โดยอุปกรณ์ทั้งหมดได้มอบให้แก่เทศบาลตำบลท่าวังตาล
อัพเดตค่าโอนที่ดิน ปี2567 ใช้เงินกี่บาท?
สวัสดีครับวันนี้เราจะพาทุกคนไปอัพเดตค่าการโอนบ้าน หรือ อสังหาริมทรัพย์ การซื้อขายที่ดินหรือที่พักอาศัยมีค่าใช้จ่ายหลักๆ ได้แก่ ค่าโอน ค่าจดจำนอง ค่าอากรแสตมป์ ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยมีรายละเอียดดังนี้: ค่าใช้จ่ายในการโอนอสังหาริมทรัพย์ ค่าคำขอโอนที่ดิน: 5 บาท
เงินลงทุนหุ้น “ของคนไทย” ในต่างชาติมีมากแค่ไหนกัน?
ปฏิเสธไม่ได้เลยนะครับว่าช่วงหลังมานี้การลงทุนในหุ้น หรือกองทุนต่างๆนอกประเทศนั้นเห็นได้ชัดเลยว่าผลตอบแทนกำไรดีกว่าการลงทุนหุ้นในประเทศอยู่มากทำให้นักลงทุนชาวไทยหันไปลงทุนกับหุ้นและกองทุนนอกประเทศมากขึ้น และยังมีแนวโน้มว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปเนื่องจากปัญหาคุณภาพหุ้นไทยที่ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยจะพบว่า มูลค่าเงินลงทุนหุ้น ตราสารหนี้และกองทุน ในต่างประเทศของนักลงทุนไทยทั้งกองทุนรวมและนักลงทุนรายย่อยในช่วง 10 ปีที่ผ่าน เพิ่มจาก 20,448.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(746,376.09 ล้านบาท) ในปี 2558