PAM ลุยซื้อหนี้เติมพอร์ต เซ็นสัญญาซื้อขายพอร์ต BMW และพอร์ตโอริโค่ ลีสซิ่ง สวนกะแสธุรกิจขาลงช่วงโควิด-19 คอนเฟิร์มพื้นฐานแกร่งไม่เปลี่ยน เข้าสู่การเติบโตสูงแบบก้าวกระโดด ด้วยเงินทุนที่พร้อม
หลังจากที่ได้เปิดตัวบริษัทใหม่ HYFIRST และ PINNACLE ASSET HOLDING พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจการเงินครบวงจร เพื่อเตรียมการณ์ก้าวเข้าสู่การเป็น NON-BANK ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ PAM มองการเติบโตในช่วง ไตรมาสแรกปี 2566 ดีต่อเนื่อง ยอดจัดเก็บพุ่งขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ชี้จับตาครึ่งปีหลัง 2566 โดดเด่นกว่าเดิม
คุณ พงศธร หาญวรโยธิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พินนะเคิล แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ PAM เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่1 ปี2566ที่ผ่านมา ยอดจัดเก็บหนี้ (Cash Collection) มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน อีกทั้งลูกหนี้ส่วนใหญ่ที่มีการฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจในช่วงปีที่ผ่านมา จึงมีการชำระหนี้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ หากว่ามีมูลหนี้ก้อนใหม่มีความน่าสนใจและราคามีความเหมาะสม บริษัทก็มีความพร้อมที่จะลงทุนเพิ่มในปีนี้
หลังจากวันที่ 7 เมษายน 2566 ได้เซ็นสัญญาซื้อขายพอร์ตหนี้ จากบริษัท BMW และ Orico Auto Leasing (Thailand) Ltd. ในวันที่ 30 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เผยหลังจากนี้ยังจะมีการซื้อขายพอร์ตหนี้เพิ่มอีกประมาณ 4 พอร์ตก่อนจะปิดงบการลงทุนในไตรมาสสอง ส่วนการจัดซื้อหนี้ด้อยคุณภาพใหม่เข้ามาในพอร์ตเพิ่มเติมนั้น ปัจจุบันเริ่มมี TOR จากทางสถาบันการเงินทยอยออกมาบ้างแล้วแต่ปริมาณอาจไม่หวือหวานัก และจะมีหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) มากขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 และ 4 เป็นต้นไป เพราะเข้าไฮซีซันของธุรกิจ ทั้งนี้ในปี 2566 บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่กว่า 600ล้านบาท เพื่อรองรับการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพใหม่ทั้งแบบที่มีหลักประกันและโดยเฉพาะแบบไม่มีหลักประกันเข้ามาบริหารในพอร์ตเพิ่มเติม โดยมูลค่าพอร์ตหนี้ที่บริษัทถือครอง ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 1,370 ล้านบาท จำนวนลูกหนี้ 4,850 ราย ภายหลังจากเริ่มดำเนินกิจการเพียงไม่ถึงหนึ่งปี
ขณะที่อัตราการเจริญเติบโตของบริษัทลูก 2 บริษัทคือ บริษัท HYFIRST และ PINNACLE ASSET HOLDING คาดเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป นอกจากนี้บริษัทก็มีความสนใจและมองหาโอกาสในการหา Synergy ใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ จากปัจจัยที่กล่าวมาเชื่อว่าจะเข้ามาช่วยหนุนให้ผลงานในปี 2566 เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ไม่น้อยกว่าปีก่อน
*ควักงบช็อปหนี้เพิ่ม
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนทุ่มเงินลงทุนในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากเดิมเพื่อรองรับการจัดซื้อเอ็นพีแอลเข้ามาเสริมพอร์ตบริหารหนี้ให้ขยายตัวมากขึ้น หลังมองทิศทางสถาบันการเงินและธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) มีแนวโน้มจะทยอยจำหน่าย NPLs ออกมาเป็นจำนวน ซึ่งถือเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตของของบริษัทในระยะยาวเพิ่มเติม
เด่นสุดกลุ่ม AMC
อีกทั้งธุรกิจมีความมั่นคง ดำรงตำแหน่งบริษัทที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มธุรกิจประเภทเดียวกัน ในภาคเหนือ ซึ่งจะยิ่งเห็นภาพชัดเจนขึ้นหลังจากการทำสัญญาซื้อขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ จากสถาบันการเงินระดับประเทศ และสถาบันการเงินอื่นๆ
อีกทั้งในปี 2023 นี้ Pinnacle Asset Management มีแนวคิดการบริหาร และนโยบายที่จะพัฒนาด้านเทคโนโลยีของกลุ่มบริษัทภายใต้การนำของคุณพงศธร CEO ของเรา โดยให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลักคือ Digital Transformation, Sustainability และ Cybersecurity Culture ทั้ง 3 ส่วนหลักนี้จะเป็นนโยบาย และแนวทางให้กลุ่มธุรกิจของ Pinnacle ขยาย และเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพื่อเป็นผู้นำด้านการบริการการเงินครบวงจร และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่แข็งแกร่งต่อไป